เมื่อถึงเวลาที่นักเรียนเปียโนจะซื้อเปียโนสักหลัง ก็มักจะมีคำถามมากมายขึ้นมามากมาย ตั้งแต่ เปียโนยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนเสียงเพราะ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละบุคคลเป็นหลัก แต่มีคำถามอีกหนึ่งข้อที่เป็นคำถามที่มีมาทุกยุคทุกสมัยก็คือ ถ้าเพิ่งจะหัดเริ่มเล่น ควรลองซื้อเปียโนไฟฟ้าไปทดลองหัดดูก่อน หรือเปียโนไม้ที่มีคุณภาพและอายุการใช้งานไปเลยดีกว่า วันนี้เราจะมาดูรายละเอียด จุดเด่น และข้อแตกต่างของเปียโนทั้งสองแบบ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างถูกต้องและเหมาะกับจุดประสงค์กันครับ
ข้อดีและข้อเสียเปรียบของการซื้อเปียโนไฟฟ้า
ข้อดี
1). คุณสามารถเสียบหูฟังเพื่อฝึกซ้อมคนเดียวโดยไม่ต้องรบกวนผู้อื่น
2). คุณสามารถปรับระดับเสียงให้ดังหรือเบาได้
3). คุณสามารถบันทึกเพลงที่เล่นลงไปในตัวเครื่อง
4). คุณสามารถเลือกใช้และลองผสมผสานเสียงของเครื่องดนตรีหลายๆชนิดเพื่อสร้างสีสันให้บทเพลง
5). เปียโนไฟฟ้ามีน้ำหนักเบาจึงสามารถย้ายไปเล่นห้องต่างๆ หรือแม้แต่ในงานนอกสถานที่ได้
6).เปียโนไฟฟ้านั้นไม่ต้องมีการจูนเสียง และดูแลรักษามากเท่ากับเปียโนไม้ จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากนัก
7). คุณสามารถเอาไฟล์เพลงโปรดที่หาโหลดได้ในอินเตอร์เนตมาโลหดลงเครื่องเปียโนไฟฟ้าเพื่อหัดเล่นได้
8). เปียโนไฟฟ้ามีราคาไม่แพง คุณสามารถหาซื้อเปียโนไฟฟ้ามาเพื่อฝึกหัดเล่นได้ในราคาสองหมื่นกว่าๆ
9). เปียโนไฟฟ้ามีขนาดกะทัดรัด, รูปทรงสวยงาม และยังใช้พื้นที่เพียง 2/3 ของเปียโนไม้ ทำให้สามารถวางได้ในเกือบทุกห้องที่ต้องการ
ข้อเสีย
1). มูลค่าของเปียโนไฟฟ้าตกลงอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถขายต่อได้ในราคาสูง
2). มีเปียโนไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆออกมาทุกๆ 1-2 ปี ทำให้มูลค่าของเปียโนไฟฟ้าของคุณยิ่งตกลงและขายต่อยากยิ่งขึ้น
3). เสียงและน้ำหนักคีย์มีคุณภาพพอใช้ แต่ยังไม่สามารถเทียบกับเปียโนไม้ได้
ข้อดีและข้อเสียของเปียโนไม้
ข้อดี
1). เปียโนไม้นั้นจะยังมีคุณภาพดีเป็นเวลานานนับสิบปี และยังมีมูลค่าที่ค่อนข้างสูงแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม
2).เปียโนไม้จะมีเสียงแบบ Acoustic แท้ ที่เกิดจากกลไกที่หัวค้อนตีลงบนเส้นเสียงและขยายกำลังผ่านทาง soundboard
3). ตัวเปียโนไม้ทำมาจากไม้ และมีความแข็งแรง คงทนกว่าเปียโนไฟฟ้ามาก
4). ถ้าตัว cabinet ด้านนอกของเปียโนไม้เสียหายก็สามารถซ่อมแซมได้
5).เปียโนไม้ให้สัมผัสที่หนักแน่นและการตอบสนองจากกลไกแท้ ทำให้สามารถฝึกฝนและพัฒนานิ้วและการเล่นได้ดีกว่า
6). เปียโนไม้นั้นมีระยะเวลาการรับประกันที่ยาวนานกว่าเปียโนไฟฟ้า
ข้อดี
1). คุณสามารถเสียบหูฟังเพื่อฝึกซ้อมคนเดียวโดยไม่ต้องรบกวนผู้อื่น
2). คุณสามารถปรับระดับเสียงให้ดังหรือเบาได้
3). คุณสามารถบันทึกเพลงที่เล่นลงไปในตัวเครื่อง
4). คุณสามารถเลือกใช้และลองผสมผสานเสียงของเครื่องดนตรีหลายๆชนิดเพื่อสร้างสีสันให้บทเพลง
5). เปียโนไฟฟ้ามีน้ำหนักเบาจึงสามารถย้ายไปเล่นห้องต่างๆ หรือแม้แต่ในงานนอกสถานที่ได้
6).เปียโนไฟฟ้านั้นไม่ต้องมีการจูนเสียง และดูแลรักษามากเท่ากับเปียโนไม้ จึงไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษามากนัก
7). คุณสามารถเอาไฟล์เพลงโปรดที่หาโหลดได้ในอินเตอร์เนตมาโลหดลงเครื่องเปียโนไฟฟ้าเพื่อหัดเล่นได้
8). เปียโนไฟฟ้ามีราคาไม่แพง คุณสามารถหาซื้อเปียโนไฟฟ้ามาเพื่อฝึกหัดเล่นได้ในราคาสองหมื่นกว่าๆ
9). เปียโนไฟฟ้ามีขนาดกะทัดรัด, รูปทรงสวยงาม และยังใช้พื้นที่เพียง 2/3 ของเปียโนไม้ ทำให้สามารถวางได้ในเกือบทุกห้องที่ต้องการ
ข้อเสีย
1). มูลค่าของเปียโนไฟฟ้าตกลงอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถขายต่อได้ในราคาสูง
2). มีเปียโนไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆออกมาทุกๆ 1-2 ปี ทำให้มูลค่าของเปียโนไฟฟ้าของคุณยิ่งตกลงและขายต่อยากยิ่งขึ้น
3). เสียงและน้ำหนักคีย์มีคุณภาพพอใช้ แต่ยังไม่สามารถเทียบกับเปียโนไม้ได้
ข้อดีและข้อเสียของเปียโนไม้
ข้อดี
1). เปียโนไม้นั้นจะยังมีคุณภาพดีเป็นเวลานานนับสิบปี และยังมีมูลค่าที่ค่อนข้างสูงแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม
2).เปียโนไม้จะมีเสียงแบบ Acoustic แท้ ที่เกิดจากกลไกที่หัวค้อนตีลงบนเส้นเสียงและขยายกำลังผ่านทาง soundboard
3). ตัวเปียโนไม้ทำมาจากไม้ และมีความแข็งแรง คงทนกว่าเปียโนไฟฟ้ามาก
4). ถ้าตัว cabinet ด้านนอกของเปียโนไม้เสียหายก็สามารถซ่อมแซมได้
5).เปียโนไม้ให้สัมผัสที่หนักแน่นและการตอบสนองจากกลไกแท้ ทำให้สามารถฝึกฝนและพัฒนานิ้วและการเล่นได้ดีกว่า
6). เปียโนไม้นั้นมีระยะเวลาการรับประกันที่ยาวนานกว่าเปียโนไฟฟ้า
ข้อเสีย
1). เปียโนไม้นั้นมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายนั้นไม่สะดวกและอาจต้องใช้บริการขนย้ายจากช่างมืออาชีพที่มีค่าใช้จ่าย
2). เราไม่สามารถควบคุมความดังของเสียงเปียโนไม้ได้เหมือนเปียโนไฟฟ้า การนั่งซ้อมเงียบๆคนเดียวจึงทำได้ยาก
3). เปียโนไม้นั้นควรจะได้รับการจูนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
4). ราคาของเปียโนไม้นั้นค่อนข้างสูง
ดังนั้นเมื่อเราพิจารณาข้อดีข้อเสียและการใช้งานแล้ว เราก็จะสามารถเลือกลงทุนทางการศึกษาให้บุตรหลานได้อย่างคุ้มค่าและถูกต้องเหมาะสมกับความต้องการ1). เปียโนไม้นั้นมีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายนั้นไม่สะดวกและอาจต้องใช้บริการขนย้ายจากช่างมืออาชีพที่มีค่าใช้จ่าย
2). เราไม่สามารถควบคุมความดังของเสียงเปียโนไม้ได้เหมือนเปียโนไฟฟ้า การนั่งซ้อมเงียบๆคนเดียวจึงทำได้ยาก
3). เปียโนไม้นั้นควรจะได้รับการจูนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
4). ราคาของเปียโนไม้นั้นค่อนข้างสูง
แหล่งที่มาของบทความ : www.musichouse.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น